ในยุคดิจิทัล นักธุรกิจและผู้บริโภคแสนจะใกล้ชิดกันมาก โดยการสื่อสาร การขาย หรือการตลาดผ่านออนไลน์ และมีโซเชียลเป็นตัวเชื่อมต่อการค้าขาย ซึ่งในยุคดิจิทัลเราไม่สามารถ “นำไข่มาแลกข้าว” หรือ “นำเสื้อผ้ามาแลกข้าว” ได้อีกต่อไปโลยีหรือไอทีต่างๆ มาเป็นเครื่องมือ ในการดำเนินธุรกิจให้เหมาะสมตามการเวลา เพื่อตอบสนองกลุ่มผู้บริโภคได้แบบรวดเร็วทันใจ เคยมีคนถามเหมือนกันว่า “ทำไมไอทีกลายเป็นมีบทบาทสำคัญในการทำธุรกิจ” ก็ตอบได้เลยว่า เป็นวิวัฒนาการด้านเทคโนโลยีที่ช่วยให้ผู้ประกอบการหรือนักธุรกิจทั้งหลายได้ใช้เวลาไปกับความคิด เนื่องจอกธุรกิจต่างๆเร่งรีบ มีการแข่งขันสูงนักธุรกิจจึงควรใช้เวลาไปกับการก่อสร้างสินค้า หรือวางแผนธุรกิจให้สำเร็จตามเป้าหมายและช่วยให้ธุกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน
วิธีที่ 1 ขายสินค้า หรือบริการของเราเอง เป็นวิธีที่รายได้ที่เกิดจากตัวเราขายของเราเอง เงินที่ได้เข้ากระเป๋าเราแน่นอน 100% คำว่าของเราเอง เป็นได้ทั้ง แบรนด์ของสินค้า บริการ บริษัท หรือแม้แต่ชื่อตนเอง ในระยะยาวการขายสินค้าแบบนี้มีข้อดีคือทำให้ลูกค้าเกิด Loyalty เพราะขายสินค้าตังเองจึงใกล้ชิดกับลูกค้ามาก เป็นโอกาสสร้างรายต่อเนื่องไม่สิ้นสุด ตัวอย่าง เราเป็นคนชอบออกกำลังกาย เล่นกีฬา และหุ่นดี ก็อาจจะไปเขียน e-Book แนะนำวิธีการดำเนินขีวิตแต่ละวัน วางจำหน่วยขายตลาด e-Book ต่างประเทศ เช่น Amezon หลังจากนั้นสักพักก็ ทำเล่มสอง หรือVideoเพิ่มเติม มาขายให้ลูกค้ากลุ่มเดิมต่อเนื่องไป หรือถ้าไม่ก็อาจจะทำเป็นตัวผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพออกมาขายเองเลยก็ได้ วิธีที่ 2 ขายสินค้า หรือบริการของคนอื่น เป็นวิธีการเริ่มต้นง่ายๆ ไม่ต้องลงทุนทางการเงินและเวลามาก เราเพียงต้องมองหาสินค้าดีมีคุณภาพ ไปนำเสนอต่อกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่สนใจ โน้มน้าวให้ซื้อสินค้า และเราก็จะได้รับเงินค่านายหน้า วิธีนี้สามารถสร้างรายได้ในระยะเวลาสั้น อาจจะไม่ถึง 1 วัน ข้อดี เมื่อรู้ว่าสินค้าบริการตัวไหนขายดี …